วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2552

คู่มือการใช้งานโปรแกรม InAlbum 3.2

1.ส่วนที่ 1 : http://nam2006s.blogspot.com/
2.ส่วนที่ 2
Choose a template ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนของการเลือก template ก็คือ แม่แบบให้กับ slide show โดยมีขั้นตอนดังนี้



1. เลือกแม่แบบ
2. เลือกแม่แบบมีอยู่ในโปรแกรมแล้ว ตามที่ต้องการ
Ex เลือกแม่แบบแบบ Love > Heart Frame จะปรากฏดังนี้



3. ถ้าหากต้องการที่จะ Download Template เพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่แล้วอินเตอร์เน็ตของ Web site http://www.increditools.com/ โดย คลิกที่ปุ่มการ Download ด้านล่าง เพื่อเข้าสู่ Web site

1. Add Photo เป็นการAdd photo จากคอมพิวเตอร์ เพื่อตกแต่งเพิ่มเติม โดยคลิกปุ่ม จะปรากฎ ดังรูป

ส่วนถ้ารูปที่ได้ Add photo เข้ามามีขนาดใหญ่ สามารถปรับขนาด ความโน้มเอียงของภาพได้ และการปรับค่าต่าง ๆ


ผลลัพธ์


2. Add Video นำ Video จากคอมพิวเตอร์ แล้ว Import Video จากคอมพิวเตอร์ แล้วเลือกแล้วจะปรากฏดังรูป


จากนั้น เลือก ป้ายชื่อ Effect ปรับค่าต่าง ๆ ได้ตามต้องการ




แล้ว เลือก ป้ายชื่อ Control เพื่อทำการปรับแต่งกรอบให้กับ Video เลือกได้ตามต้องการ เช่น เลือก Events > Brithday baby

ผลลัพธ์


3. Add Sound เป็นการเพิ่มเสียงให้กับรูปภาพ

ผลลัพธ์


4. Add GIF Animation เป็นการ Add Animation ใส่ในภาพ เมื่อเลือกภาพเรียบร้อยแล้ว จะปรากฏการปรับค่าให้กับภาพ

Play immediately เป็นการปรับค่าการปรากฏของภาพเป็นปกติ


ผลลัพธ์


Play after เป็นการปรับค่าในการปรากฏภาพขึ้นมา โดยจะมีเวลาในการปรากฏ โดยในที่นี้ ตั้งค่า เป็น 2 sec



ผลลัพธ์


5. Add Text Animation เป็นการเพิ่มข้อความให้กับภาพ โดยการตั้งค่า ดังนี้



Text เป็นการพิมพ์ข้อความที่จะให้ปรากฏ และปรับค่ารูปแบบข้อความ เช่น ขนาด สีของข้อความ เป็นต้น Shadow เป็นการกำหนดเส้นให้กับตัวอักษร โดยกำหนดว่า จะให้สีอะไร

ผลลัพธ์


การเพิ่ม Effect ทางด้านขวามือ

Clip Art เป็นการเพิ่ม Effect ให้กับรูปภาพ โดยเลือกภาพที่ต้องการลากมาใส่ในรูปภาพ และสามารถรูปภาพได้
Ex เลือก Effect Dress Up > Glasses โดยคนแรกจะเพิ่ม Effect โดยใส่แว่นให้กับรูปภาพ ส่วนคนที่สองจะเพิ่ม Effect โดยเลือก Dress Up > Hats

ผลลัพธ์



Speech Bubble เป็นการเพิ่ม Effect ให้กับข้อความจะแตกต่างจากกับ Add Text Animation ก็คือ มีการใส่กรอบให้กับข้อความ และสามารถปรับค่าได้ตามต้องการ
โดย Text เป็นการพิมพ์ข้อความที่จะให้ปรากฏ โดยสีตัวแรก จะเป็นการเปลี่ยนสีให้กับกรอบรูป และตัวอักษร ส่วนสีตัวที่สอง เป็นการเปลี่ยนสีให้กับภาพหลังของกรอบรูปด้านใน

ผลลัพธ์


Sound เป็นการเพิ่มเสียงให้กับรูปภาพจะแตกต่างจากการ Add Sound ถ้าเป็นการ Add Sound จะนำเสียงมาจากคอมพิวเตอร์ แต่การใส่ Sound นี้จะเป็นการนำเสียงมาจากที่ได้ปรากฏไว้ในโปรแกรม

Ex เลือก Sound > Crowd Sound > Booo

ผลลัพธ์


Record Voice เป็นการ Import เสียงเพลง จากคอมพิวเตอร์ เหมือนกับการ Add Sound

Set Show setting ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เป็นการตั้งชื่อให้กับ Title ที่โชว์ , เพิ่ม Music , การตั้งค่าเวลาในการเล่นสไลด์โชว์



Show Title เป็นการตั้งชื่อให้ชื่อสไลด์โชว์
- Directed by เป็นการตั้งชื่อผู้สร้าง
- Starring เป็นการปรับค่าต่าง ๆ



Music เป็นการเพิ่มเสียงให้กับสไลด์โชว์


ถ้าเลือกป้ายชื่อ Combine เลือกเพลงที่ต้องการ วิธีการนี้จะเป็นการได้เพลงแบบเต็มเพลง แต่ถ้าต้องการที่จะเลือกเฉพาะท่อนที่ต้องการให้เลือก ป้ายชื่อ Split แล้วเลือกเพลงที่ต้องการ โดยเลื่อน Start และ End ให้ตรงตามความต้องการของเนื้อเพลงที่ต้องการ


Thumbnail เป็นการเลือกแม่แบบใหม่ให้กับสไลด์โชว์

Photo transition delay เป็นการกำหนดช่วงเวลาให้กับสไลด์โชว์

เมื่อเสร็จแล้วให้เลือก Finish Editing จะปรากฏหน้าต่างของสไลด์โชว์ให้ แต่ถ้าไม่ตรงกับความต้องการให้เลือก Edit Show เพื่อกลับไปแก้ไขในสิ่งที่ไม่ตรงกับความต้องการ

ผลลัพธ์

3. ส่วนที่ 3 : http://blog-noopan22.blogspot.com/
4. ส่วนที่4 : http://ratchafunny.blogspot.com/

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

การศึกษากับสื่อมัลติมีเดีย

การศึกษากับสื่อมัลติมีเดีย

ปัจจุบันคนไทยเริ่มเล็งเห็นความสำคัญของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีซึ่งกำลังมีบทบาทมากขึ้น โดยเฉพาะอิทธิพลต่อการศึกษาของไทย ซึ่งไทยควรจะมีการจัดทำสื่อเพื่อเตรียมบุคลากรทางการศึกษา คือ ครูและผู้บริหารการศึกษาให้ก้าวไปพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ตระหนักถึงการเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีมัลติมีเดียกับการศึกษา และบทบาทของครูกับนักเรียนเพื่อที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

เมื่อกล่าวถึงมัลติมีเดีย จะเป็นสิ่งที่กว้างมาก เนื่องจากว่ามัลติมีเดียเกิดจากการนำภาพ เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว วิดีโอมาผสมผสานเข้าด้วยกัน แต่เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้คอมพิวเตอร์กำลังเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าหากได้ยินใครกล่าวถึงมัลติมีเดียคนทั่วไปมักจะนึกถึงคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นความเข้าใจที่ผิด แต่ก็ได้มีนักการศึกษาหลาย ๆ ท่านได้ให้ความหมายของมัลติมีเดียไว้ดังนี้

มัลติมีเดีย หมายถึง การนำองค์ประกอบของสื่อชนิดต่าง ๆ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วย ตัวอักษร ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว เสียง วิดีโอ โดยผ่านกระบวนการทางระบบคอมพิวเตอร์ (ทวีศักดิ์ กาญจนสุวรรณ. 2546)

มัลติมีเดีย คือ ระบบสื่อสารข้อมูลข่าวสารหลายชนิด โดยผ่านสื่อทางคอมพิวเตอร์ ซึ่งประกอบด้วย ข้อความ ฐานข้อมูล ตัวเลข กราฟิก ภาพเสียงและวิดีทัศน์ (Jeffcoate. 1995)

มัลติมีเดีย คือ การใช้คอมพิวเตอร์สื่อความหมายโดยการผสมผสานสื่อหลายชนิด เช่น ข้อความ กราฟ ภาพศิลป์ (Graphic Art) เสียง ภาพเคลื่อนไหว (Animation) และวิดีทัศน์ เป็นต้น ถ้าผู้ใช้สามารถควบคุมสื่อเหล่านี้ให้แสดงออกมาตามต้องการได้ระบบนี้จะเรียกว่า มัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์(InteractiveMultimedia) (Vaughan. 1993)

มัลติมีเดีย คือโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่อาศัยคอมพิวเตอร์เป็นสื่อในการนำเสนอโปรแกรมประยุกต์ซึ่งรวมถึงการนำเสนอข้อความสีสัน ภาพกราฟิก (Graphic images) ภาพเคลื่อนไหว (Animation) เสียง (Sound) และภาพยนตร์วิดีทัศน์ (Full motion Video) (Hall. 1996)

เนื่องจากว่าคอมพิวเตอร์กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายทั่วไปเพราะมีราคาถูก หาซื้อได้ง่ายให้ทั้งภาพกราฟิกและภาพเคลื่อนไหว และในสถานศึกษาต่าง ๆ ก็จะจัดให้ผู้เรียนได้เรียนคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นทุกวันนี้คอมพิวเตอร์จึงได้เข้ามามีบทบาทกับการศึกษาเป็นอย่างมาก และเนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันได้เจริญก้าวหน้าไปมาก มีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายคอมพิวเตอร์ในส่วนของมัลติมีเดียทางการศึกษาก็เช่นเดียวกัน ในช่วงหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาได้มีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นกับคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาที่รู้จักกันดี เช่น e – learning โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน หรือ CAI ซึ่งจะสังเกตเห็นว่าทั้ง e – learning และ CAI ต่างก็เป็นมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์ที่เกิดจากการนำเอาภาพ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ มาผสมผสานกันเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้อีกแหล่งหนึ่งของผู้เรียน ทำให้เนื้อหาของบทเรียนมีความน่าสนใจ น่าศึกษามากขึ้น คอมพิวเตอร์จึงได้กลายเป็นแหล่งข้อมูลมัลติมีเดียทางการศึกษาขนาดใหญ่ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ระหว่างกันเองได้

นอกจากระบบการศึกษาจะต้องเตรียมตัวรับกับความก้าวหน้าของมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์แล้ว ครูในฐานะผู้ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียก็จะต้องเตรียมความพร้อมให้มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของเทคโนโลยีทั้งในเรื่องของวิธีการใช้ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ เพื่อให้สามารถควบคุมและประยุกต์ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างสื่อต่างๆได้ ครูจะต้องเป็นผู้ที่พัฒนาตนเองอยู่เสมอในการที่จะขวนขวายหาความรู้และทำความเข้าใจการใช้คอมพิวเตอร์มัลติมีเดียในการจัดการเรียนการสอนให้มีความทันสมัย เร้าความสนใจเด็ก
ดังนั้นมัลติมีเดียคอมพิวเตอร์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยในการลดภาระงานสอนและประหยัดเวลาของ ผู้สอน และนอกจากนั้นยังช่วยให้ผู้เรียนได้เลือกเข้าไปศึกษาได้ตามความสนใจ ทุกที่ ทุกเวลาโดยไม่จำกัด สามารถฝึกได้ตลอดจนเกิดความชำนาญ และช่วยให้ระบบการจัดการศึกษามีความน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย


ข้อดีของสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา
1.เทคโนโลยีด้านสื่อมัลติมีเดียช่วยให้การออกแบบบทเรียน ตอบสนองต่อแนวคิด และทฤษฎีการเรียนรู้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งส่งผลโดยตรงต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การวิจัยที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของสื่อมัลติมีเดียว่า สามารถช่วยเสริมการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้นได้
2.สื่อมัลติมีเดียในรูปแบบของซีดีรอม ใช้ง่าย เก็บรักษาง่าย พกพาได้สะดวก และสามารถทำสำเนาได้ง่าย
3.สื่อมัลติมีเดียเป็นสื่อการสอนที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองตามศักยภาพ ความต้องการ และความสะดวกของตนเอง สามารถสร้างสถานการณ์จำลอง จำลองประสบการณ์ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง4. ในปัจจุบันมีโปรแกรมช่วยสร้างบทเรียน (Authoring Tools) ที่ง่ายต่อการใช้งานทำให้บุคคลที่สนใจทั่วไปสามารถสร้างบทเรียนสื่อมัลติมีเดียใช้เองได้
5. สื่อมัลติมีเดียที่มีคุณภาพ นอกจากจะช่วยให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนของโรงเรียน หรือหน่วยงานแล้ว ความก้าวหน้าของระบบครือข่าย ยังช่วยส่งเสริมให้การใช้สื่อมัลติมีเดียเป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาอื่นๆ อีกด้วย

ข้อจำกัด
1. ถึงแม้ว่าขณะนี้ราคาของเครื่องคอมพิวเตอร์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์จะ ลดลงมากแล้วก็ตาม แต่การที่จะนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในวงการศึกษาในบางสถานที่นั้นจำเป็นต้อง มีการพิจารณากันอย่างรอบคอบเพื่อให้คุ้มกับค่าใช้จ่าย ตลอดจนการดูแลรักษาด้วย
2.การออกแบบสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษาที่มีคุณภาพเหมาะสมตามหลักทางจิตวิทยา และการเรียนรู้นับว่ายังมีน้อย เมื่อเทียบกับการออกแบบโปรแกรมเพื่อใช้ในวงการด้านอื่น ๆ ทำให้สื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษามีจำนวน และขอบเขตจำกัดที่จะนำมาใช้ในการเรียนวิชาต่าง ๆ
3.ในขณะนี้ยังขาดอุปกรณ์ที่ได้คุณภาพมาตรฐานระดับเดียวกัน เพื่อให้สามารถใช้ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างระบบกัน
4.การที่จะให้ผู้สอนเป็นผู้ออกแบบสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษานั้นเป็นงานที่ต้องอาศัยเวลา สติปัญญา และความสามารถเป็นอย่างยิ่ง ทำให้เป็นการเพิ่มภาระของผู้สอนให้มีมากยิ่งขึ้น
5.คอมพิวเตอร์เป็นสื่อที่มีความยุ่งยากในการใช้งาน และความซับซ้อนของระบบการทำงานมาก เมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ
6. มีตัวแปรที่เป็นปัญหานอกเหนือจากการควบคุมมาก เช่น ไฟฟ้าขัดข้อง ระบบ Server เป็นต้น
7.เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสื่อมัลติมีเดียมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำให้ผู้ผลิตสื่อมัลติมีเดียต้องหาความรู้ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงเสมอ
8.ในการผลิตสื่อมัลติมีเดียนั้นต้องการทีมงานที่มีความชำนาญในแต่ละด้านเป็นอย่างมากอีกทั้งต้องมีการประสานงานกันในการทำงาน

ที่มา http://202.143.146.178/multimedia/multi_lesson/index1.html
http://www.seameo.org/vl/pallop/multime.htm
http://www.nectec.or.th/courseware/multimedia/0003.html